วันอาทิตย์ที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2556

เจียวกู้หลานนำเสนอบทความ เรื่องมะเร็ง

 เจียวกู้หลานธรรมชาติให้คุณค่าสมุนไพรครบถ้วนกว่าน่าใช้กว่าราคาถูกกว่า ปลอดภัยจากสารเคมีเจือปน เจียวกู้หลานธรรมชาติจากยอดดอยของเชียงใหม่ ให้ประโยชน์ครบเครื่องกว่า ใช้บำรุงร่างกาย เพิ่มความแข็งแรงให้อวัยวะ ใช้เสริมยาหมอให้การรักษาของหมอดีขึ้นเหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาสุขภาพที่อยู่ในการดูแลของแพทย์ เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในหลอดเลือดสูง หลอดเลือดตีบอุดตัน สมุนไพรในเจียวกู้หลานมีคุณสมบัติเป็นสารอาหารเสริมสามารถใช้คู่กับยาหมอได้ดีไม่ขัดแย้ง ไม่ลดหรือทำลายสรรพคุณของยาหมอเห็นผลการรักษาของหมอได้ชัดเจน สมุนไพรในเจียวกู้หลานธรรมชาติเหมาะสำหรับผู้ที่รักสุขภาพใช้ป้องกันเสริมสุขภาพให้แข็งแรงขึ้น ความเสื่อมของอวัยวะและขัดขวางการทำงานของอนุมูลอิสระ ปลอดภัยกว่าเจียวกู้หลานทั่วๆ ไป เพราะเป็นเจียวกู้หลานจากธรรมชาติไม่ใช้สารเคมีปรุงแต่งใดๆ เช่น สารเคมีป้องกันเชื้อรา สารเคมีป้องกันการบูดเน่า สารปรุงแต่งสี รสชาด และกลิ่น อันเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ค่าของเม็ดเลือดต่ำลง เจียวกู้หลานธรรมชาติให้ประโยชน์ครบในตัวของสมุนไพรที่คุณไม่จำเป็นต้องเติมหรือเสริมสมุนไพรใดๆให้การจ่ายเงินซื้อผลิตภัณฑ์ต้องเพิ่มขึ้นไป เช่นนำเจียวกู้หลานมาผสมกับสมุนไพรอื่น อาทิเช่น ชามิกซ์ ต่างๆ ทำให้คุณต้องจ่ายเงินมากขึ้นได้ผลเท่ากัน ชามิกซ์ส่วนใหญ่มีเจียวกู้หลานเป็นส่วนประกอบ

มะเร็ง หรือ เนื้อร้าย
มะเร็งหรือเนื้อร้าย คือ เนื้องอกชนิดร้ายที่กลายมาจากเนื้อเยื่อปกติของร่างกาย มีการเจริญเติบโตและแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว อยู่นอกเหนือการควบคุมของร่างกาย และมีโทษต่อร่างกาย ในปัจจุบันมะเร็งเป็นสาเหตุการตายในอันดับแรกๆ ของคนไทย ที่พบบ่อยในบ้านเรา ได้แก่ มะเร็งเต้านม มะเร็งปากมดลูก มะเร็งตับ มะเร็งปอด มะเร็งผิวหนัง มะเร็งในช่องปาก พบมากในคนอายุมากกว่า 50 ปีขึ้นไป แต่ก็อาจพบในเด็ก และคนหนุ่มสาวได้
สาเหตุ ยังไม่ทราบแน่ชัด แต่เชื่อว่ามีปัจจัยหลายๆ อย่างร่วมกัน ซึ่งพอจะแบ่งเป็น 2 พวกใหญ่ๆ
1. ปัจจัยภายในร่างกาย เช่น
•ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย
•เชื้อชาติ ชาวญี่ปุ่นเป็นมะเร็งกระเพาะอาหารมาก จีนเป็นมะเร็งของโพรงหลังจมูก และหลอดอาหารมาก
 •เพศ มะเร็งตับ มะเร็งปอด พบมากในผู้ชาย มะเร็งของเต้านม มะเร็งผิวหนัง พบมากในผู้หญิง
•อายุ มะเร็งของลูกตา (Retinoblastoma) มะเร็งของไต พบมากในเด็ก
•กรรมพันธุ์ มะเร็งเต้านมบางชนิด มะเร็งของต่อมไทรอยด์บางชนิด มะเร็งกระเพาะอาหาร
•มะเร็งตับอ่อน มะเร็งลำไส้ใหญ่ พบว่า มีความสัมพันธ์กับกรรมพันธุ์ เป็นต้น
2. ปัจจัยภายนอกร่างกาย ได้แก่
•สารกายภาพต่างๆ ได้แก่ การระคายเคืองเรื้อรัง เช่น
 1.ฟันปลอมที่ไม่กระชับ เวลาเคี้ยวอาหารจะมีการเสียดสีกับเหงือกหรือเพดานปาก อาจทำให้เกิดมะเร็งของเหงือก หรือเพดานปากได้
 2.การกินอาหารหรือดื่มเครื่องดื่มร้อนจัดเป็นประจำ อาจจะมีการระคายบริเวณหลอดอาหาร อาจทำให้เป็นมะเร็งของหลอดอาหารได้
 3.รังสีต่างๆ ถ้าร่างกายได้รับเป็นระยะนาน ๆ ก็อาจเกิดมะเร็งอวัยวะต่างๆ ได้
4.แสงอัลตราไวโอเลต อาจทำให้เป็นมะเร็งของผิวหนัง และริมฝีปาก ถ้าถูกแดดจัดๆ เป็นระยะนานๆ
•สารเคมี ในปัจจุบันพบสารก่อมะเร็ง (carcinogen) มากกว่า 450 ชนิด อยู่ในรูปของอาหาร พืช และสารเคมีต่างๆ เช่น
1.สารหนู อาจทำให้เป็นมะเร็งของผิวหนัง
2.บุหรี่ มีสารเบ็นซ์ไพรีน (benzpyrine) ที่เรียกว่า "ทาร์" หรือ "น้ำมันดิน" และสารเคมีพวกอะโรมาติกไฮโดรคาร์บอน (aromatic hydrocarbon) ทำให้เกิดมะเร็งปอด ช่องปาก ลำคอ กล่องเสียง หลอดอาหาร ตับอ่อน ปากมดลูก กระเพาะปัสสาวะได้
3.แอลกอฮอล์ ทำให้เกิดมะเร็งช่องปาก ลำคอ กล่องเสียง ตับ หลอดอาหาร ลำไส้ใหญ่ เต้านม
4.เบนซีน ทำให้เกิดมะเร็งเม็ดเลือดขาว
5.การเคี้ยวหมากหรือการจุกยาฉุน นอกจากจะมีการระคายเรื้อรังแล้ว ยังมีสารเคมีที่ทำให้เป็นมะเร็งของช่องปากได้
 6.สารไนโตรซามีน (nitrosamine) ในอาหาร ทำให้เกิดมะเร็งของตับ กระเพาะอาหาร ลำไส้ใหญ่
7.ดีดีที เมื่อเข้าในร่างกาย อาจเปลี่ยนเป็นสารไดไนโตรซามีน ซึ่งมีฤทธิ์เหมือนไนโตรซามีน
•ฮอร์โมน ฮอร์โมนเอสโตรเจน มีความสัมพันธ์กับการเกิดมะเร็งช่องคลอด และโพรงมดลูก ฮอร์โมนแอนโดรเจน มีความสัมพันธ์กับการเกิดมะเร็งต่อมลูกหมาก
•การติดเชื้อ เช่น
1.การติดเชื้อไวรัสตับอักเสบชนิดบี และซี มีความสัมพันธ์กับการเกิดมะเร็งตับ
2.การติดเชื้อไวรัสเอชพีวี (HPV/Human papilloma virus) มีความสัมพันธ์กับการเกิดมะเร็งปากมดลูก มะเร็งกล่องเสียง หรือทอนซิล
3.การติดเชื้อไวรัสเอชทีแอลวี-1 (HTLV-1/Human T-cell leukemia virus) มีความสัมพันธ์กับการเกิดมะเร็งเม็ดเลือดขาว และมะเร็งต่อมน้ำเหลือง
4.การติดเชื้อไวรัสอีบีวี (EBV/Epstein-Bar virus) สัมพันธ์กับการเกิดมะเร็งต่อมน้ำเหลือง ชนิดเบอร์กิต (Burkitt's lymphoma) และมะเร็งโพรงหลังจมูก
5.การติดเชื้อเอชไอวี (เอดส์) มีความสัมพันธ์กับการเกิดมะเร็งต่อมน้ำเหลือง, มะเร็งของหลอดเลือดที่เรียกว่า Kaposi sarcoma
6.การติดเชื้อ เอชไพโลไร (H. pylori/Helicobacter pylori) มีความสัมพันธ์กับการเกิดมะเร็งกระเพาะอาหาร
 •สารพิษ เช่น อะฟลาท็อกซิน (Aflatoxin) จากเชื้อราที่ปนเปื้อนในอาหาร ทำให้เกิดมะเร็งของตับ
 •พยาธิ เช่น พยาธิใบไม้ตับ ทำให้เกิดมะเร็งของตับ
 •อาหาร
1.ภาวะขาดอาหาร เช่น โรคตับแข็ง ซึ่งเกิดจากการขาดสารโปรตีน จะกลายเป็นมะเร็งตับได้ง่าย
2.การบริโภคอาหารพวกไขมันมาก อาจสัมพันธ์กับการเกิดมะเร็งเต้านม ลำไส้ใหญ่ รังไข่ ต่อมลูกหมาก มดลูก และตับอ่อน
3.การบริโภคผักและผลไม้ วันละ 400-800 กรัม ช่วยลดการเกิดมะเร็งช่องปาก ลำคอ หลอดอาหารกระเพาะอาหาร ลำไส้ใหญ่ ตับอ่อน เต้านม และกระเพาะปัสสาวะ
อาการของมะเร็งที่อวัยวะต่างๆ
การรักษามะเร็ง
การป้องกัน : การปฏิบัติตัวเพื่อป้องกันมะเร็ง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น